การใช้งานแก็สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 100%

การใช้งานแก็สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 100%

ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นสวนเครื่องจักร พวกงาน sheet metal
แก็สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จะมีการใช้งานมากที่สุด

• แก็สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 100% จะใช้เป็นหลักสำหรับการเชื่อมเหล็กกล้าคาร์บอน งานบาง ย้ำนะครับว่างานบาง

•อาร์กที่เกิดขึ้นจากแก็สคาร์บอนไดออกไซด์จะเหนี่ยวนำความร้อนสูง การหลอมลึกจะค่อนข้างกว้างเมื่อเทียบกับการเชื่อมโดยใช้แก็สผสม

• สามารถใช้ทำการเชื่อมได้ทุกตำแหน่งท่าเชื่อม เช่นการเชื่อมลงสำหรับงานหนา

• การใช้กระแสไฟเชื่อมที่สูงสำหรับแก็สคาร์บอนไดออกไซด์ จะยังเป็นการถ่ายโอนที่ลัดวงจรที่ทำให้เกิดเม็ดโลหะกระเด็นเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกระแทกของปลายลวดเชื่อมกับบ่อหลอมละลาย เกล็ดรอยเชื่อมจะหยาบ

สาเหตุของ Spatter เม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ มาก น้อย จะขึ้นอยู่กับลักษณะของการถ่ายโอนน้ำโลหะ

•การปรับตั้งค่าแรงดันอาร์กและกระแสไฟเชื่อมให้สัมพันธ์กันในการเชื่อมด้วยแก็สคาร์บอนไดออกไซด์ 100% ในทางปฏิบัติทำได้ยากมาก ช่างเชื่อมต้องมีประสบการณ์สูง และเมื่อเทียบกับการเชื่อมด้วยแก็สผสมการปรับตัวแปรการเชื่อมจะทำได้ง่ายกว่า

•การใช้เครื่องเชื่อมที่มีฟังก์ชั่นการปรับอินดักแตนซ์จะช่วยให้ช่วงกระแสสูงของการลัดวงจรลดลง ส่งผลให้การถ่ายโอนแบบลัดวงจรมีความสม่ำเสมอมากขึ้น

ขดลวดอินดักแตนซ์จะเหนี่ยวนำกระแสตอนลัดวงจร (Short Circuit) ให้ลดลง ผลคือการถ่ายโอนนุ่มนวลขึ้น Spatter ลดลง

• การเชื่อมด้วยแก็ส CO2 สำหรับเหล็กกล้างานบางความหนาไม่เกิน 1 มม. และการเชื่อมแนวรากจะกระทำได้ยาก งานบางจะทะลุ

• การใช้กระแสพัลส์ทำการเชื่อมด้วยแก็ส CO2 ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเกิดแรงกระแทกที่ปลายลวด โดยปรกติจะใช้เป็น Pulse Spray

• การเชื่อมด้วยแก็ส CO2 จะมีสแลกเล็กๆ ที่เป็นส่วนประกอบ SiO2 กระจายเป็นกลุ่มที่ผิวหน้ารอยเชื่อม การใช้กระแสไฟเชื่อมที่ระดับสูงจะทำให้เกิดรอยกัดแหว่ง และปริมาณสแลกจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปริมาณรูพรุนจะลดลง

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลสำหรับการพิจารณาเลือกใช้แก็ส CO2 ให้เหมาะสมกับงาน

ผศ.ดร.ปริยสุทธิ์ วัฒนธรรม
ภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมการเชื่อม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

วิทยาทานในครั้งนี้ข้าพเจ้าขออุทิศผลบุญให้คุณพ่อประสงค์ คุณแม่รัตนาพร วัฒนธรรม และคณาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้ข้าพเจ้าจนสามารถต่อยอดองค์ความรู้เกิดประโยชน์เป็นวงกว้างผ่านสื่อโซเชียลเทอญ....

บทความน่ารู้ลองเวล

Visitors: 328,130